ชื่อหนังสือ:การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
หลักในการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
โรเจอร์ส(Rogers
1970: 69-82)
ได้เสนอแนะถึงการสร้างสถานการณ์ที่จะส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ไว้ 2 ประการคือ
1.ความรู้สึกปรอดภัยทางจิต
(Psychological Safety)
ซึ่งจะสร้างได้ด้วยกระบวนการที่สัมพันธ์กัน
3
อย่างคือ
1.1ยอมรับในคุณค่าของแต่ละบุคคลอย่างไม่มีเงื่อนไข
การที่พ่อแม่หรือครู ยอมรับความสามารถและเชื่อมั่นในตัวเด็กอย่างไม่มีเงื่อนไข
ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกปลอดภัย เริ่มเรียนรู้ว่าตนสามารถจะเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น
ทำให้เด็กสามารถพบสิ่งต่างๆ ที่คุณค่าหรือมีความหมายสำหรับตน
กล้าที่จะลองและสร้างความสำเร็จใหม่ๆ ให้แก่ตนเองและทำเองได้โดยไม่มีใครกระตุ้น
1.2สร้างบรรยากาศที่ไม่มีการวัดผลและประเมินผลจากภายนอก
เมื่อไม่มีการวัดผลจากภายนอกหรือจากมาตรฐานอื่นๆ จะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกอิสระ
เป็นตัวของตัวเอง และกล้าแสดงออกทั้งความคิดและกระทำอย่างร้างสรรค์ได้
1.3ความเข้าใจ
ถ้าเราเข้าใจเด็ก เห็นใจเด็ก
และเข้าใจความรู้สึกของเขาเข้าไปสู่โลกส่วนตัวของเขาและมองมันอย่างที่เขามองและยังคงยอมรับเขาอยู่
จะทำให้เขาเกิดความรู้สึกปลอดภัย บรรยากาศอย่างนี้จะทำให้เขายอมรับตัวของเขาจริงๆ
และการแสดงออกต่างๆของเขารวมทั้งความต้องการสร้างสรรค์สิ่งแปลกๆที่เกี่ยวข้อสัมพันธ์กับโลกของเขาด้วย
2.ความเป็นอิสระทางจิต (Psychological
Freedom)
เป็นการให้อิสรภาพแก่ทุกคนในการที่จะคิด
รู้สึก เป็นอะไรก็ตามที่อยู่ในตัวเขา
เป็นการส่งเสริมความเปิดเผยจะทำให้มีความเป็นอิสระ
ไม่กลัวต่อความเปลี่ยนแปลงและสภาพการณ์ใหม่ กล้าที่จะยอมรับกับความ
ผิดพลาดนำไปสู่การประเมินภายในตนเอง ซึ้งท้ายที่สุดก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
ขึ้นมาได้ด้วยตนเอง
ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยและความเป็นอิสระจึงเป็นหลักการพื้นฐานของการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสถาบันแรกที่จะปลูกฝังความรู้สึกเหล่านี้คือครอบครัว
การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์จึงให้ความสำคัญของบ้านหรือครอบครัวเป็นอันดับแรก
บ้าน
จะต้องส่งเสริมให้เด็กมีความคิดเป็นของตัวเอง กล้าแสดงความคิดเห็น และ
ไม่สกัดกั้นความคิดเห็นของเด็ก จากประวัติศาสตร์การค้นคว้าที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย
เช่น โคลัมบัส เบนจามินแฟรงคลิน กาลิเลโอ และดาร์วิน บุคคลเหล่านี้กล้าคิด
กล้าคัดค้านทั้งสิ้น จึงทำให้เขาค้นพบความรู้ใหม่ๆ กล่าวคือ
โคลัมบัสคิดคัดค้านความเชื่อเก่าที่บอกว่าโลกแบน
ทำให้คนรุ่นใหม่ต่อมาทราบว่าโลกกลม เบนจามินแฟรงคลิน ไม่ยอมเชื่อเรื่องเทวดา
เขาจึงพบไฟฟ้าในบรรยากาศ
กาลิเลโอไม่ยอมเชื่อว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาลดังที่คนสมัยก่อนเข้าใจ
จึงทำให้ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับจักรวาล
และดาร์วินไม่ยอมเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างมนุษย์
จึงทำให้เขาคิดทฤษฎีว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากต้นตระกูลลิงชนิดหนึ่ง
นักคิดนักค้นคว้าเหล่านี้คือบุคคลที่กล้าคิด
นับว่าเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง
เมื่อได้รับโอกาสหรือการส่งเสริมให้รู้จักคิด กล้าคิด และกล้าแสดงออก
แต่ในการอบรมเลี้ยงดูเด็กของคนไทยมักนิยมส่งเสริมให้เป็นเด็กหัวอ่อนยอมทำตามคำสั่งของผู้ใหญ่ทุกประการ
ส่งผลสะท้อนให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีการทำงานสั่งจากเบื้องบน
ซึ่งจะเห็นได้จากความสัมพันธ์ระหว่างผู้น้อยกับผู้ใหญ่
ฝ่ายแรกมักจะเกรงกลัวและเชื่อฟังผู้ใหญ่อยู่ตลอดเวลา
เมื่อปฏิบัตินานเข้าก็กลายเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีและนิสัยที่ผู้น้อยเองที่ต้องการเช่นนั้น
ดังนั้นผู้น้อยในวงราชการ หรือประชาชนจึงไม่นิยมแสดงความคิดเห็น
ไม่ริเริ่มสร้างสรรค์คอยทำตามคำสั่งเท่านั้น
การสร้างสรรค์เป็นเรื่องสัมพันธ์ใกล้ชิดกับความภาคภูมิใจในตนเอง
การสนับสนุนการสร้างสรรค์ในตัวลูกจึงเท่ากับช่วยให้ลูกเกิดความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
แต่ถ้าพ่อแม่เมินเฉยกับการสร้างสรรค์ของลูกจะทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับการยอมรับ
ดังนั้นพ่อแม่ควรจะให้ความสนใจในสิ่งที่ลูกทำ
สังเกตสิ่งที่ลูกแสดงออกถึงการสร้างสรรค์ตามธรรมชาติ เป็นต้นว่า
ถ้ามีการเคลื่อนไหวร่างกายที่คล่องแคล่ว แสดงว่าอาจจะมีการสร้างสรรค์ในเรื่องของกีฬาหรือเต้นรำจึงควรส่งเสริมเด็กในด้านนั้นๆ
เป็นพิเศษ บางครั้งเด็กแสดงออกถึงการสร้างสรรค์ของเขาแบบง่ายๆ
โดยการตั้งคำถามเป็นชุดในเรื่องที่สงสัยอย่างหน้าดำคร่ำเครียด
พ่อแม่ควรมีความอดทนและตอบคำถามของเด็ก ตัวอย่างของพ่อแม่ที่ส่งเสริมและสนับสนุนลูก
ช่วยขจัดปัญหาให้ลูกมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะพ่อแม่ของเอดิสัน และไอนสไตร์
แม้ครูจะแจ้งว่าเด็กทั้งสองเป็นเด็กโง่ทึบ ปัญญาอ่อน และให้ออกจากโรงเรียน
พ่อแม่ยอมเอาลูกออกแต่ไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ว่าลูกทั้งสองโง่ทึบ
กลับให้กำลังใจและส่งเสริมคุณลักษณะต่างๆ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นจนเด็กทั้งสองสามารถพัฒนาตนเองจนกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์
และนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นว่า
พ่อแม่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของลูก
บรรณานุกรม
กรุงเทพธุรกิจ.
โรงบ่มความคิดสร้างสรรค์ “สอนเด็กให้สร้างปัญญาด้วยตนเอง” . กรุงเทพฯ (20
ตุลาคม 2542): 3.
ประสาร มาลากุล ณ อยุธยา. ความคิดสร้างสรรค์
:
พรสวรรค์ที่พัฒนาได้. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์พิธการพิมพ์,
2537.
วิชาการ, กรม. กระทรวงศึกษาธิการ.ความคิดสร้างสรรค์. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพฯ: กรมวิชาการ, 2535.
อารี
พันธ์มณี. คิดอย่างสร้างสรรค์.
พิมพ์ครั้งที่5.กรุงเทพฯ: ต้นอ้อแกรมมี่, 2540 ก.
อารี
รังสินันท์. ความคิดสร้างสรรค์.พิมพ์ครั้งที่3
กรุงเทพ: ข้าวฟ่าง, 2532.
อุษณีย์ โพธิสุข
และกองบรรณาธิการโครงการพิเศษ. สร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะ.กรุงเทพฯ: ผู้จัดการ. (1954), 2537.
ออลสัน, โรเบิร์ท. ศิลปะการเสริมสร้างพลัง “ความคิดสร้างสรรค์” พิมพ์ครั้งที่2.
แปลจาก The Art of Creative Thinking โดย มนูญ
ตนะวัฒนา. กรุงเทพฯ: เจริญวิทย์การพิมพ์, 2537.
เอมสตีน, เซย์มัวร์ และบรอดสกี้,
อาร์ซี่. คุณฉลาดมากกว่าที่คุณคิดไว้: การพัฒนาการคิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อความสำเร็จในชีวิต.
แปลจาก You’re
Smarter Than You Think: How to Develop You Practical
Intelligence For Success in Living โดย วิทยากร เชียงกูล. กรุงเทพฯ:
โครงการจัดพิมพ์คบไฟ, 2540.
Rogers’
C.R. Toward a Theory of Creativity. In P.E. Vernon (ed.), Creativity.
Hasmonds Worth:
Penguin Book, 1970.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น